เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ การพบกันของวัฒนธรรมคู่แข่ง

เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ การพบกันของวัฒนธรรมคู่แข่ง

Parleyที่แสดงด้านบนนี้ถูกวาดโดยศิลปิน

เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ Frederic Remington ในศตวรรษที่สิบเก้า ซึ่งมีชื่อเสียงจากการพรรณนาถึง American West สามารถพบได้ในFrederic Remington: The Hogg Brothers Collection of the Museum of Fine Arts, Houstonโดย Emily Ballew Neff กับ Wynne H. Phelan (Princeton University Press/Museum of Fine Arts, Houston, $49.95, £31.50) มีการกล่าวถึงเทคนิคของเรมิงตัน ซึ่งสนับสนุนโดยการใช้การสะท้อนแสงอินฟราเรดและรังสีเอกซ์

ขวดน้ำหอมสมัยกรีกโบราณ

ภาพจาก Michal Dayagi-Mendels, Perfumes and Cosmetics in the ancient world

     สำหรับปัจจัยสำคัญที่ทำให้น้ำหอมมีการใช้ในคาบสมุทรทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเป็นที่แรก ก่อนจะแพร่หลายไปทั่วโลกนั้น คือ เรื่องของสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากสภาพภูมิอากาศบริเวณนี้มีอากาศแห้งและร้อนชื้น ทำให้ผู้คนในพื้นที่นี้คิดค้นวิธีที่จะรักษาผิวพรรณของตนให้ชุ่มชื้น จึงนิยมที่จะทาน้ำมัน เพื่อสุขภาพผิวที่ดี ต่อมาเมื่อสุนทรียภาพในเรื่องกลิ่นมีความสำคัญขึ้นต่อการรับรู้ของมนุษย์ จึงได้เพิ่มกลิ่นหอมลงในน้ำมันในภายหลัง และค่อย ๆ พัฒนาขึ้นมาจนเป็นน้ำหอมในที่สุด โดยสกัดเอากลิ่นหอมจากพืช เช่น กุหลาบ มะลิ ชาโมไมล์ มดยอบ (Myrrh) กำยาน (Frankincense) แก่นจันทร์ เป็นต้น มาทำเป็นน้ำหอม

กำยาน ต้นไม้ที่นำมาใช้ทำน้ำหอม 

     โดยมันได้กลายเป็นของใช้สำหรับคนเป็น เมื่อการใช้น้ำหอมอาจหมายถึงความต้องการในการแสดงฐานะทางสังคมของตน จากเดิมที่การผลิตน้ำมันเพื่อทาผิวให้ชุ่มชื้น เป็นความรู้ที่คนในพื้นที่สามารถเรียนรู้และผลิตขึ้นมาได้เอง เนื่องจากสภาพภูมิอากาศเป็นสิ่งที่ผู้คนในพื้นที่นี้เผชิญร่วมกัน แต่ต่อมาเมื่อกลิ่นหอมได้ถูกเพิ่มเข้ามา มีการใช้วัตถุดิบที่มีค่า ราคาแพงนำมาทำเป็นส่วนผสม และถูกใช้ในเรื่องของความเชื่อและพิธีกรรมมากขึ้น ทำให้น้ำมันหอมหรือน้ำหอมเหล่านี้ กลายเป็นสิ่งที่ชี้วัดและแสดงถึงฐานะทางสังคมของผู้คนที่ใช้มันไปโดยปริยาย

     โดยน้ำหอมบ่งบอกถึงฐานะทางสังคมได้ เมื่อพิจารณาจากน้ำมันพื้นที่เป็นองค์ประกอบ จากการใช้น้ำมันพื้นเป็นส่วนผสม เพื่อให้ความเข้มข้นเจือจาง อันเนื่องมาจากการห้ามใช้น้ำมันหอมระเหยที่สกัดจากพืชมาใช้โดยตรง ทำให้น้ำมันพื้นเป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญอย่างมากในการผลิตน้ำหอม โดยในระยะแรก มักใช้พืชในท้องถิ่น เช่น ต้นละหุ่ง มาทำเป็นน้ำมันพื้น แต่เมื่อมีการพัฒนานำเอาพืชชนิดอื่น ๆ มาทำบ้าง เช่น มะกอก อัลมอนด์ รวมถึงการผสมวัตถุดิบอื่น ๆ เช่น นม น้ำผึ้ง เกลือ หรือไขมันของสัตว์ เช่น วัว แพะ แกะ ซึ่งมีคุณค่าและต้นทุนทางราคาที่สูงขึ้น ทำให้การที่จะใช้น้ำหอมซึ่งมีน้ำพื้นเหล่านี้ได้นั้น จะต้องเป็นบุคคลที่ร่ำรวยและมีฐานะทางสังคมสูงไม่น้อยทีเดียว ด้วยเหตุนี้ น้ำหอมที่พบในชนชั้นสูงกับชนชั้นล่างจึงอาจไม่เหมือนกัน และสะท้อนถึงฐานะทางสังคมของผู้ใช้น้ำหอมนั้น ๆ ได้

     นอกจากนี้ สิทธิ และวิธีการนำมาใช้

 สามารถแสดงถึงฐานะทางสังคมของผู้ใช้น้ำหอมได้เช่นกัน เช่น ในระยะแรกของอารยธรรมอียิปต์โบราณ นักบวชเท่านั้นที่สามารถใช้และผลิตน้ำหอมได้ ต่อมาในระยะหลังมีการนำน้ำหอมมาใช้โดยบุคคลในชนชั้นสูง เช่น Djehuti Thebes จากหลักฐานภาพวาดในสุสาน สมัยราชวงศ์ที่ 18 ที่นำมาใช้เพื่อต้อนรับแขกเหรื่อ อันแสดงถึงความร่ำรวยและอำนาจ เป็นต้น ขณะที่ในอาณาจักรโรมัน จากความนิยมในการอาบน้ำในโรงอาบน้ำสาธารณะ ซึ่งทำให้เป็นที่พบปะพูดคุยของชนชั้นสูง ชนชั้นสูงเหล่านี้จะมีการนำเอาน้ำมันและน้ำหอม ซึ่งบรรจุอยู่ในขวดทรงกระบอกติดตัวไปด้วยโดยทาสของพวกเขา เพื่อปะพรมตัวหลังการอาบน้ำด้วย

ภาพขวดน้ำหอมแบบต่าง ๆ ในสมัยโรมัน

ภาพจาก Michal Dayagi-Mendels, Perfumes and Cosmetics in the ancient world

     น้ำหอมยังกลายเป็นของใช้สำหรับคนตาย เนื่องจากมักถูกใช้เป็นของอุทิศสิ่งของให้แก่คนตาย โดยการอุทิศสิ่งของให้แก่คนตาย ถือเป็นความเชื่อและพิธีกรรมที่มีร่วมกันของผู้คนในบริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เห็นได้จากการพบหลักฐานทางโบราณคดีที่เป็นสิ่งของเครื่องใช้ภายในหลุมฝังศพเสมอ เช่น ในอารยธรรมสุเมเรียน สมัยราชวงศ์แรกแห่ง Ur (2900 – 2371 ปีก่อนคศ.) พบภาชนะทำจากทองและเครื่องประดับภายในหลุมฝังศพ ในอียิปต์จากการขุดค้นที่ Dier Tasa และ Merimdeh ใน Fayum A ทางตอนเหนือ และ Tasian ทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งกำหนดอายุได้ราว 7,000 – 4,000 ปีก่อนคศ. พบหลักฐานทางโบราณคดีเป็นสิ่งของที่ถูกใช้อุทิศให้แก่ศพ เช่น โครงกระดูกมนุษย์ในหลุมฝังศพ ภาชนะดินเผาขึ้นรูปด้วยมือ เครื่องประดับทำจากกระดูกสัตว์ งาช้าง และเปลือกหอย เป็นต้น จากการที่น้ำหอมเองเป็นสิ่งหนึ่งที่ถูกใช้ในชีวิตประจำวัน จึงถูกใช้เป็นของอุทิศให้แก่ผู้คนที่จากไปแล้วด้วย โดยน้ำหอมที่พบภายในหลุมฝังศพสามารถบอกถึงสถานะทางสังคมของผู้ที่อยู่ภายในนั้นได้ ดังที่กล่าวไว้ในเรื่องของปัจจัยทางสังคมกับน้ำหอม และอาจบ่งบอกถึงคติความเชื่อเรื่องโลกหลังความตายได้อีกด้วย

ขวดน้ำหอมในอารยธรรมอียิปต์โบราณ เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์